
การชงกาแฟจาก AeroPress
ตลอดมาตั้งแต่เริ่มเขียน Blog มา โดยส่วนตัวจะพยายามไม่ขายสินค้าที่ตัวเองขายอยู่ แต่ในบางครั้งเพื่อเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ถ่ายทอดให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ผมจำเป็นต้องนำสินค้า หรือ ของ ๆ ตนเองมา ทดสอบ ทดลอง Review ไว้บ้าง ไม่ใช่เพราะจะพยายามขาย แต่เพราะผมกล้าพอที่จะติสินค้าของตนเอง และ ว่ากันในเรื่องความจริงเป็นหลัก ...
จะเห็นได้ว่า หลาย ๆ ครั้ง ผมพูดชมร้านนู้นร้านนี้ หรือ เครื่องชงรุ่นนู้น รุ่นนี้อยู่บ่อย ๆ นั่นหมายความอย่างที่ผมรู้สึกจริงๆ และ เมิื่อคราวใดที่ได้ จัด Cupping หรือ Coffee Party ขึ้นนั้น จุดประสงค์หลัก ก็ไม่ได้หมายความว่า จะจัดเพื่อหาเงิน หรือ ขายสินค้าอะไรก็ตาม ผมพยายามแยก ทุกอย่างให้ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ใครที่รู้จักผมดีพอ จะทราบเอง
เล่าเรื่องต่าง ๆ มาก็มาก คราวนี้จะขายของกันจริง ๆ จัง ๆ ล่ะครับ ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ไม่อยากชมโฆษณา ก็แนะนำให้ ปิดหน้าต่างนี้เสีย เพื่อความปลอดภัยกับอารมณ์ท่านเป็นหลักครับ ... ส่วนใคร ทนได้ เรามาว่ากันต่อครับ ..
วันนี้ จะทำการขาย และ ทดลองเจ้า AeroPress อย่างจริง ๆ จัง ๆ ให้ดูกันครับ ผมเอาตัวนี้เข้ามานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ มา Review กันจริง ๆ จัง ๆ ซะที ซึ่งหลังจากทดลองใช้อยู่ซักพักใหญ่ ๆ ก็ได้แนวทางการชงกาแฟมาพอสมควร และ ทำให้การชงกาแฟแบบ AeroPress สนุก ได้รสชาติมากขึ้นครับ

เดิมที AeroPress ใช้ชงกาแฟง่ายแสนง่าย เพียงแค่ ใส่ฟิลเตอร์ที่แถมมากับชุด ใช้ได้เป็นปี ๆ แล้วนำผงกาแฟมาใส่ในกระบอก , นำไปวางบนแก้ว ,เติมน้ำร้อน แล้วก็ทำการคนด้วยอุปกรณ์ที่แถมมา จากนั้นก็แค่กดปั๊มนำ้กาแฟออกมา แค่นี้ก็ได้กาแฟร้อนหอมกรุ่น ภายในเวลา 30 วินาที อีกทั้งทำความสะอาดก็ สะดวกง่ายดาย ดังภาพประกอบครับ

แต่วันนี้ เรามาลองใช้ AeroPress กับวิธีอื่น ๆ ให้ยาก ๆ กันมั่งครับ ซึ่งวิธีเหล่านี้ที่ผมจะทดสอบ จะเป็นวิธีที่ทำให้ การใช้งาน หรือ ผลลัพธ์ใกล้เคียงเครื่อง Clover ที่ผมเคยกล่าวถึงได้มากขึ้นครับ
กาแฟตัวแรกที่ใช้ ผมเลือก Blue Mountain มาทดสอบ (ติดต่อหาซื้อได้ ที่ www.peaberryltd.com) นำมาบดให้ได้ความละเอียด ขนาดหยาบที่พอจะใช้กับเครื่องชงแบบ Drip ได้ โดยบดด้วยเครื่องบด Mahlkoenig รุ่น Guatemala Lab (ราคา 115,000 บาท)

ต้มน้ำร้อน โดย Set ให้ Cooking Digital Thermometer (ราคา 950 บาท) เตือนเมื่ออุณหภูมิถึง 90 องศาเซลเซียส

จากนั้นก็เทน้ำ ร้อนลงไปแค่ระดับ หมายเลข 2

ทำการคนด้วยอุปกรณ์ที่แถมมากับชุดอุปกรณ์ ให้กาแฟกับน้ำร้อนเข้ากัน ซึ่งตอนนี้ กลิ่นกาแฟจะโชยหอมฟุ้งกระจายเลยเชียว , ส่วนเครื่องบดกาแฟที่อยู่ข้าง ๆ ด้านหลัง เป็นเครื่องบดDoge Junior รุ่นเล็ก เฟืองบด 50 mm. เหมาะใช้กับร้านขนาดเล็ก ราคา 14,500 บาท ส่วนน้ำเชื่อม Artista Gourmet ราคา ขวดละ 350 บาท กลิ่นธรรมชาติ เหมาะใช้กับกาแฟมาก

หลังจากคนกาแฟแล้ว ผมทดลองแช่กาแฟไว้ เป็นเวลา 2 นาที ด้วยนาฬิกา CDN รุ่นไข่หลากสี ราคา 450 บาท

เมื่อครบเวลาที่กำหนด ก็ทำการกด AeroPress เบา ๆ แค่นี้ก็จะได้กาแฟ รสและดีกรีของกลิ่นที่เข้มมากกว่าการชงด้วยวิธีอื่น ๆ ทำให้สัมผัส ความนวลนุ่มของ Blue Mountain และ Body ที่เต็มรส มากขึ้น

ขั้นตอนการทำความสะอาดก็แสนสะดวก ง่ายแค่ ถอดฝาล็อคออก แล้วก็กดตัวปั๊ม กาก กาแฟก็จะหลุดร่วงไปทั้งก้อนทันทีลงไปใน ถังขยะ ราคา 149 บาท

ต่อมาผมทดลอง นำกาแฟ Panama มาทำการทดสอบอีกครั้ง โดยบดให้ละเอียดขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

แต่คราวนี้ ทดลองใช้น้ำ ที่อุณหภูมิ สูงกว่าเดิมคือ 93 องศา ซึ่งผมใช้ set ค่าไว้ที่ Cooking Digital Thermometer ให้ทำการเตือนเมื่ออุณหภูมิถึงค่าที่กำหนด โดยใช้เครื่องต้มน้ำร้อนพลังสูง Tefal (ไม่มีจำหน่าย) ที่วางอยู่บน ตู้อะคลีลิคเก็บเสียงสำหรับเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ราคา 3,300 บาท , (ด้านหลังเป็นตู้เย็น เน่า ๆ ที่พนักงานชอบเปิดแล้วลืมปิดครับ)

และเปลี่ยนเวลาการแช่เป็น 3 นาที

เมื่อครบเวลา ก็ทำการกดแบบเดิม จะได้น้ำกาแฟเข้มข้น แล้วจึงทำการเติมน้ำร้อนลงไปเพิ่ม ในสัดส่วน 1:1

คราวนี้ กาแฟ Panama ที่ได้รสชาติ กลมกล่อม แฝงด้วย รสชาติของ Lemony , Fruity สดใส หอมหวลมาก ๆ ทำให้ผมต้องลงไปหยิบ Lemon Cake มากินด้วยกัน ได้รสชาติดีมากครับ
ถึงตอนนี้ จะเห็นได้ว่า AeroPress ยืดหยุ่นการชงกาแฟ ได้หลากหลายรูปแบบมาก ซึ่งหากชงแบบปรกติ ตามที่คู่มือแนะนำมานั้น จะช่วยให้ประหยัดเวลาไปได้มาก ... หรือ หากจะทำการชงแบบควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ดังการทดสอบข้างต้นนั้น ยิ่งทำให้ การ present รสชาติของกาแฟแต่ละตัวได้ดียิ่งขึ้น
ใคร ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเข้าป่า หรือ เที่ยวตามต่างจังหวัด ควรมีพกติดตัวไว้ จะทำให้ท่านไม่พลาดการดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟคุณภาพ ที่ท่านโปรดปราณ โดยทุกท่านสามารถ หาซื้อได้ที่ www.peaberryltd.com
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้อ่าน โฆษณา Hard Sell นี้จดบรรทัดสุดท้ายคร๊าบบบ ส่วนสินค้าอื่น ๆ ที่เขียนมา เป็นการแซวเล่น ๆ แต่ขายจริง ๆ ครับ .....