
เครื่องบดกาแฟ Mahlkonig
ทั้งๆ ที่บอกใครต่อใครเสมอเรื่องความสำคัญของเครื่องบดกาแฟ ว่ามีผลต่อรสชาติอันดับต้น ๆ ก่อนเครื่องชงกาแฟด้วยซ้ำ แต่ด้วยความประหยัด หรือ ที่เพื่อนๆ เรียกว่าความงก ทำให้ยังไม่เคยได้เปลี่ยนเฟืองบดกาแฟของเจ้า เครื่องบดกาแฟ Mahlkönig
K30 vario ตัวแดงแรงฤทธิ์ ที่เคยผ่านสนามแข่งก็หลายสนาม รวมถึง การใช้งานจริงระยะเวลาหนึ่ง โดยส่วนตัวก็นึกว่าเฟืองบดยังไม่น่าจะสึก แต่เมื่อมานั่งนับรวม ๆ แล้ว น่าจะบดกาแฟไปกว่าพันโลได้แล้ว อันเป็นตัวเลขที่เกินอายุการใช้งานมาระยะหนึ่งจนกระทั่งเมื่อเครื่องบดในตระกูล Mahlkönig จากประเทศเยอรมนี
เดินทางมาถึงเมืองไทย เที่ยวนี้ผมได้สั่งเครื่องบดมาใช้และจำหน่ายจำนวนทั้งสิ้น 3 รุ่นด้วยกัน คือ

Mahlkönig K30 Twin ซึ่งเป็นเครื่องบดที่ใช้ในการแข่งขัน World Barista Championship 2009-2011 เรื่องความงาม และความสามารถคงไม่ต้องพูดถึง

Mahlkönig
Tanzania เป็นเครื่องบดสำหรับใช้ในร้านขายกาแฟคั่ว หรือ ซุปเปอร์มาเก็ต รวมถึง ร้านกาแฟที่ขายเมล็ดกาแฟ และต้องการบดกาแฟให้ลูกค้านำกลับไปใช้ที่บ้าน ด้วยเฟืองบดขนาด 80 mm. เรื่องความเร็วคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนความทนทานนั้นหายห่วงตามสไตล์ Mahlkönig จากเยอรมัน !!
แต่ตัวสุดท้ายที่ผมมองข้ามมาตลอด และ ได้แรงยุ แรงยั่วจาก นายแพทย์เพื่อนสนิท อยู่เสมอ ๆ ว่าให้ลองทดสอบ ลองสั่งมาใช้ดู... เมื่อคราวที่จะต้องสั่งเครื่องบดตัวอื่น ๆ มาแล้ว เพื่อเป็นการลดต้นทุนด้านการขนส่ง ผมจำเป็นจะต้องลองสั่งเจ้า Mahlkönig
Vario Home Grinder ตัวนี้มาลองให้หายสงสัยซักที เพราะที่ผ่าน ๆ มา เมื่อคราวที่ได้เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ เคยเห็น เคยจับ แต่สบประมาทและ ไม่คิดว่าตัวเล็ก ๆ จะดีไปกว่าที่คิดได้ แต่อย่างที่นักปราชญ์เคยว่าไว้ ว่าอย่าตัดสินอะไรที่ภายนอก

และเมื่อถึงเวลาที่ทำการทดสอบ ผมให้เกียรติเพื่อนนักกาแฟตัวยง เป็นผู้ทดลองใช้เป็นคนแรกของเมืองไทย(รึเปล่าหว่า?) เราทำการเทียบรสชาติกับ เจ้า K30 es ตัวเก่า พบว่า งานนี้ต้องเรียกได้ว่า แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ เพราะรสชาติของเจ้าหนูตัวเล็กดีกว่าเห็น ๆ ทำให้รู้ได้เลยว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนเฟืองบดของเจ้า K30 es นี้ซะที ไม่ใช่ว่า เจ้า Vario นี้จะดีกว่า K30 es แต่ผลลัพธ์ด้านรสชาติได้บอกว่า ตัวนี้ไม่แพ้เครื่องชงตัวใหญ่ ๆ เลยทีเดียว เมื่อมองย้อนไปถึงระบบการทำงาน ก็พบกว่า บริษัทผู้ออกแบบคิดค้นมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะเจ้า Vario นี้จะมีการปรับระดับการบดที่แตกต่างจากเครื่องทั่ว ๆ ไป เครื่องเป็นสวิตซ์ เลื่อนขึ้นลงด้านข้างทั้งสองข้าง ข้างซ้ายเป็นตัวปรับ Fine Tune ส่วนด้านขวาเป็นตัวปรับ Range ความกว้างแบ่งเป็น ที่ชงที่จะนำไปใช้ ส่วนตรงกลางมีจอแสดงวินาทีที่ใช้ในการบด ถัดลงมาเป็น ปุ่มปรับเวลา ขึ้นหรือลง และ ก็เป็นปุ่มสตาร์ท และ สต๊อป ในปุ่มเดียวกัน ด้านข้าง ๆ เป็นปุ่มฟังก์ชันManual ให้ใช้บดโดยไม่มีการกำหนดเวลาหยุด

แถวสุดท้ายเป็นปุ่ม Quick control memory ใช้เลือกเวลาการบดไว้ล่วงหน้าได้ โดยแบ่งไว้เป็น 3 ปุ่ม แยกตามประเภทของเครื่องชงกาแฟเป็นหลัก โดยที่ช่องทางออกของกาแฟก็มี โถพักผงกาแฟมาให้ต่างหาก สามารถถอดเปลี่ยนได้กับ ก้านตะเกียบรองรับ ก้านอัดกาแฟไว้กรณีต้องการใช้กับเครื่องเอสเพรสโซ่
การใช้งานคร่าว ๆ พบว่า การทำงานได้ดีมาก สามารถบดกาแฟ Double shot ได้ในเวลาเพียง 12.2 วินาที และถ้าหากจะต้องเปลี่ยนไปบดกาแฟเพื่อใช้กับเครื่องชงกาแฟประเภทอื่น ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที โดยเลื่อนสวิตด้านข้าง และสามารถปรับกลับมาตำแหน่งเดิมได้อย่างแม่นยำ !!!

ภายในเจ้า Mahlkönig Vario ใช้เฟืองบดขนาด 54 mm. ทำจากเซรามิค ทั้งอัน ขึ้นชื่อในเรื่องความทน การลดความร้อนขณะบด และความแข็งและคม จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความสามารถในการทำงาน ที่น่าสนใจกว่านั้น คือเจ้า Vario ตัวนี้ หลงเหลือกาแฟอยู่ในระบบ หรือในห้องบดกาแฟน้อยมาก ๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เพียงพอเมื่อใช้ปรับเปลื่ยนความละเอียดในการบดไปมา

บทสรุปในการทดสอบครั้งนี้ ผมพบความน่าประทับใจเกินขนาดตัวเป็นอย่างมาก เมื่อมองมาที่ราคาค่าตัว แล้วยิ่งเป็นเครื่องบดที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เหมาะที่ร้านกาแฟแต่ละแห่งควรมีเก็บไว้ใช้บดกาแฟ ในกรณีลูกค้าอยากซื้อกาแฟกลับบ้าน หรือ ไว้ใช้บดกาแฟสำหรับเครื่องชงแบบ Press , Drip , Siphon เอาไว้เมื่อเจ้าหนูตัวนี้ได้ไปใช้งานภาคสนามอันหนักหน่วงที่ร้านฯ แล้วจะมารายงานให้ทราบอีกครั้งครับ
