การดูแลรักษาเครื่องชงกาแฟ
คงจะเป็นที่ทราบกันดีว่า คุณภาพกาแฟที่ดีแต่ละถ้วยนั้นมีขั้นตอนที่เกี่ยวข้องอยู่หลายขั้นตอน ซึ่งในที่นี่เราจะมาพูดถึงขั้นตอนที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คน อาจจะนึกไม่ถึง และไม่เคยให้ความสำคัญมาก่อน ซื่งในที่นี้ก็คือ ขั้นตอนการบำรุงดูแล รักษาเครื่องชง และ เครื่องบดกาแฟ นั่นเอง เนื่องจากในตัวเมล็ดกาแฟคั่วนั้นจะมี น้ำมันอยู่ทั้งภายในและภายนอกเมล็ดกาแฟ และ ถ้ายิ่งคั่วเข้มมากเท่าใด น้ำมันก็จะยิ่งออกมาเคลือบเมล็ดมากขึ้น และทุกครั้งที่บดกาแฟนั้น น้ำมันส่วนหนึ่งก็จะไปติดอยู่ตามเครื่องบดกาแฟ และ ตามติดมาที่ภายในระบบ เครื่องชงกาแฟนั่นเอง
หลาย ๆ ครั้งเข้าคราบน้ำมันเหล่านี้ก็จะแข็งตัว และ เกาะกันเป็นคราบติดแน่นภายในระบบ อันเป็นที่มาของ กลิ่นไม่พึงประสงค์ในถ้วยกาแฟนั่นเอง ถึงวันนี้ บาริสต้าที่ดี ต้องไม่ปล่อยให้กาแฟที่คุณอุตส่าห์ เลือกสรรจากแหล่งปลูกชั้นดี ผ่านกระบวนการแปรรูปที่สะอาด คั่วด้วยเทคนิคและเครื่องที่ทันสมัย ต้องมาเสียรสชาติไปเพียงเพราะกลิ่นหมักหมม และ รสขมจากคราบกาแฟที่ค้างอยู่ในระบบ นี้อีกเลย ลองคิดดูเล่น ๆ แก้วกาแฟหรือ หม้อต้มกาแฟ ที่ใช้งานแล้ว ยังต้องล้างด้วยน้ำยาล้างจานเลย แต่เหตุใด เรายังล้างเครื่องชงด้วยน้ำร้อนอยู่อีก ทั้งยังไม่สามารถล้างเข้าไปภายในด้วยมือด้วยซ้ำ ลองคิดดูเล่น ๆ นะครับ ขนาดเวลาเราดื่มกาแฟจากถ้วยเซรามิคสีขาวสะอาด ๆ แล้ว ยังต้องนำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจานเลย เพราะไม่เช่นนั้นภายในแก้วก็จะมีคราบกาแฟเลอะติดอยู่ อีกทั้งยังรู้สึกมัน ๆ เล็กน้อยจากน้ำมันในเมล็ดกาแฟนั่นแหละครับ เห็นหรือยังครับว่า การล้างเครื่องชงกาแฟนี่เป็นสิ่งที่สำคัญ แทบจะลืมไม่ได้เลยทีเดียวครับ
ขั้นตอนการดูแลรักษาเครื่องชง
ในทุก ๆ วันก่อนจะปิดร้าน บาริสต้าที่ดีจะต้องเตรียมตัวในการปิดร้าน ปิดเครื่องชงกาแฟ ด้วยการทำความสะอาดเครื่องชงด้วยการ ล้างแบบไหลย้อนระบบ หรือ ที่เราเรียก ๆ กันว่าการ แบล็คฟลัช ( Back Flush ) นั่นเอง ก่อนอื่น ให้ทำการกดสวิตช์ปล่อยน้ำตามปรกติ โดยไม่จำเป็นต้องใส่ก้านอัด แล้ว ใช้แปรงที่แถมมากับเครื่อง หรือ แปรงที่ออกแบบไว้สำหรับทำความสะอาดโดยเฉพาะ มาแปรงความความสะอาดตามร่องซีลยาง ที่กาแฟเก่าจะติดค้างอยู่ (ตามรูป 1 และ 2 )
Fig.1 Fig.2
นำ ฟิลเตอร์บอด หรือ Blind Filter มาเปลี่ยนใส่ในก้านอัดกาแฟ (เครื่องบางรุ่นอาจจะแถมเป็นยางกลม ๆ มา ก็ใช้ได้เช่นกัน ) ใส่ลงไปเพียง 3 กรัม หรือ 1 ช้อนชา ( ตามรูป 3 ) แล้วน้ำก้านอัดกาแฟใส่เข้าไปที่เครื่องตามปรกติ แล้วกดปุ่มเปิดระบบชงกาแฟ เป็นเวลา 10 วินาที (ตามรูป 4) แล้วกดปุ่มปิดระบบ ทิ้งไว้เป็นเวลา 10 วินาที ให้น้ำยาเข้าไปทำปฏิกิริยาภายในท่อ และ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ทำซ้ำเช่นเดิมเป็นจำนวน 3-5 ครั้ง .
Fig.3 Fig.4
นำก้านอัดกาแฟออกจากเครื่อง ซึ่งคุณจะเห็นคราบผงกาแฟเก่า ตกค้างอยู่ กดปุ่มปล่อยน้ำล้างฟองที่ยังคงค้าง และ คราบกาแฟเก่าออก (ตามรูป 5 ) แล้วนำก้านอัดกาแฟใส่เข้าไปที่หัวกรุ๊ปของเครื่องชง โดยที่ไม่ต้องปิดสวิตช์การทำงาน โดยใส่เข้า-ออกอย่างหลวม ๆ เพื่อให้น้ำร้อนไหลท่วมไปล้างคราบที่ยังคงค้างอยู่ภายในซีลยางออกให้สะอาด (ตามรูป 6) แล้วใส่ก้านอัดกาแฟให้แน่นตามปรกติ ทิ้งไว้เป็นเวลา 10 วินาที เช่นเดิม แล้วกดสวิตช์ปิด ทำซ้ำเหมือนขั้นตอนล้างเช่นเดิม 3 ครั้ง เพื่อล้างคราบฟองภายในให้สะอาด เพียงเท่านี้เครื่องชงกาแฟของคุณก็พร้อมที่จะใช้งานในวันรุ่งขึ้นแล้ว
Fig.5 Fig.6
Every week clean
และทุก ๆ อาทิตย์ บาริสต้าควรจะนำ ก้านอัดกาแฟ ( Potrafilter ) มาแช่ล้างคราบสกปรกของกาแฟเก่า ด้วยการ ละลาย ผง Cafiza ของ Urnex ในน้ำร้อน ภายในภาชนะที่ทำด้วย สแตนเลส หรือ แก้ว แล้วนำ ก้านอัดกาแฟ และ ฟิลเตอร์ แช่ลงไปในน้ำ พอให้ท่วมส่วนที่เป็นโลหะเท่านั้น ทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที เป็นอย่างน้อย (ตามรูป 7,8,9 ) เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดแล้วจึงนำออกมาล้างทำความสะอาดตามปรกติ ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วครับ
ข้อแนะนำให้ใช้ผงล้างเครื่องชงที่ ออกแบบมาให้ใช้เฉพาะเครื่องชงกาแฟเท่านั้น เพราะหากมีคราบตกค้างอยู่ จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ และ ผู้บริโภค อีกทั้ง จะไม่ทำอันตรายต่อเครื่องชงกาแฟที่คุณรักอีกด้วย และผงล้างเครื่องชงกาแฟที่ดี ๆ นั้นอาจจะสังเกตุดูจาก เครื่องหมาย NSF ที่ข้างบรรจุภัณฑ์ก็ได้นะครับ